แพทย์แผนจีน

การแพทย์แผนจีนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของอารายธรรมจีนที่เจริญรุ่งเรืองมานานมากกว่า 4,000 ปี การแพทย์แผนจีนได้ประยุกต์ใช้หลักการธรรมชาติบำบัดในการรักษาเยียวยาโรค จึงได้รับการยอมรับและแพร่หลายไปทั่วโลก การแพทย์แผนจีนในประเทศไทยได้การรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขให้เป็นสาขาการแพทย์ทางเลือกหนึ่ง ซึ่งได้เปิดโอกาสให้การศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับการแพทย์แผนจีนในประเทศไทยได้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น

"ยาน้ำสมุนไพร ฮั้วลักเซียม" และ "ยาน้ำสมุนไพรผสม โสมคนทั่งเฉ้า" สามารถ ฟื้นฟู ดูแล ป้องกัน โรคภัยไข้เจ็บ ของท่านได้

สนใจสอบถามและสั่งซื้อได้ที่ ธนาวัชร์ ธนาชววัฒน์ โทร.081-131-0137 หรือ Line ID: HouLukSeam

คลิ๊กที่นี่เพื่อสั่งซื้อฮั้วลักเซียมออนไลน์
โทรสั่งซื้อทางโทรศัพท์โดยตรง 080-235-0137 081-131-0137 082-492-0137
สั่งซื้อทางไลน์ id: HouLukSeam

เจาะลึกปัญจธาตุ

24 06

วันนี้ผมขอพูดถึงเรื่อง ปัญจธาตุ หรือ ธาตุทั้ง 5 หรือตำราฝรั่งใช้คำว่า The Five Elements ในรายละเอียดทั้ง 5 ธาตุพอสังเขป เพราะถ้าเขียนยาวไป แฟนเพจอาจคลิ๊กไปหน้าอื่นซะก่อน
อ่านเพิ่มเติม
แพทย์แผนจีน

26 06

รูปซ้ายมือที่ท่านผู้ชมได้เห็นเป็นรูปของ หมอเทวดา ตัวจริง ชื่อ เปี่ยนเชวี่ย เป็น หมอจับชีพจรคนแรกของโลก

ศาสตร์การแพทย์แผนจีน มีประวัติความเป็นมาเนิ่นนานหลายพันปี การแพทย์แผนจีนมีวิวัฒนาการตามยุคสมัยในประวัติศาสตร์จีน สามารถแบ่งได้เป็น 7 ยุค ได้แก่

ยุคโบราณ ฝูซี ประดิษฐ์เข็มหิน 9 เล่ม อายุ 5,000 ปี เพื่อใช้ในการฝังเข็มรักษาโรค, เสินหนง เริ่มนำสมุนไพรมาใช้ในการรักษาโรค, จักรพรรดิหวงตี้ ทรงดำริริเริ่มการแพทย์ในราชสำนัก

ยุคราชวงศ์เซี่ย ถึง ยุคชุนชิว
คนจีนรู้จักทําเหล้าตั้งแต่กลางยุคหินใหม่ ในยุควัฒนธรรมหยางเสา ราว 4,000-10,000 ปีมาแล้ว การรู้จักการทําเหล้า มีผลต่อการแพทย์ คือ การนํามาใช้ในการทํายา โดยเฉพาะยาดองเหล้าต่าง ๆ ในยุคนี้เริ่มมีการทํายาต้ม

ยุคก่อกําเนิดทฤษฎีการแพทย์แผนจีน
มีการค้นพบ ตำราแพทย์จารึกลงบนซีกไม้ไผ่จำนวน 200 ชิ้น และ ตำราบนผืนผ้าไหม จำนวน 10 เล่ม ณ สุสานหม่าหวางตุย แห่ง ราชวงศ์ฮั่น

ยุคราชวงศ์จิ้น ราชวงศ์ใต้กับเหนือ ราชวงศ์สุย ราชวงศ์ถัง และ ยุคห้าราชวงศ์
เริ่มมีการจับชีพจรเป็นครั้งแรก

ยุคราชวงศ์ซ่ง ถึง ยุคราชวงศ์หมิง เริ่มมีการคิดค้นระบบการพิมพ์ จึงเริ่มมีการสังคายนาตำราแพทย์แผนจีนทั้งหมด

ยุคพัฒนาการแพทย์และเวชปฏิบัติแผนใหม่ในช่วง ยุคราชวงศ์หมิง ยุคราชวงศ์ชิง
เริ่มพัฒนาตำราการแพทย์และตำรับยา โดยเฉพาะ ตำรายา เปิ๋นเฉ่ากังมู่ พิมพ์ขึ้นในปี พ.ศ. 2139 เขียนโดย หลี่สือเจิน ได้อุทิศตนกว่า 30 ปี ศึกษาตำรากว่า 800 เล่ม นำมาสรุปเป็นตำรา 52 เล่ม บรรยายถึงสรรพคุณสมุนไพร 1,892 ชนิด สรุปเป็นตำรับยาได้ 11,000 ตำรับ

ยุคการแพทย์สมัยใหม่
เกิดความขัดแย้งกัน การเปรียบเทียบกัน ระหว่าง การแพทย์แผนปัจจุบัน กับ การแพทย์แผนจีน

ผมได้เขียนบทความเกี่ยวกับการแพทย์แผนจีนมานำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เชิญอ่านบทความแพทย์แผนจีน ทางด้านล่างนี้ได้เลยครับ

        ด้วยความปรารถนาดี

         ธนาวัชร์ ธนาชววัฒน์
      วศ.บ.(KMUTT), MBA(NIDA)
   ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
081-131-0137
      HouLukSeam
อ่านเพิ่มเติม
โรคภัยไข้เจ็บ

28 07

เนื่องจากความฉลาดของ มนุษย์ ทำให้เกิดการพัฒนาทางเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด ทุกอย่างรวดเร็วเร่งรัดไปหมด ความต้องการเอาชนะธรรมชาติ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วมนุษย์ไม่สามารถฝืนธรรมชาติได้จริง การที่มนุษย์ชนะธรรมชาติในเรื่องเล็กๆเรื่องหนึ่ง แต่กลับแพ้ธรรมชาติในเรื่องใหญ่กว่าเสมอ เพราะธรรมชาติมีความสมดุลในตัวเอง การฝืนธรรมชาติทำให้เกิดภาวะไม่สมดุล เมื่อธรรมชาติไม่สมดุล ธรรมชาติก็ต้องพยายามทำทุกวิถีทางให้กลับมาสมดุลให้ได้ ไม่ต่างอะไรกลับทฤษฎีแรงในข้อที่ 3 ของนิวตัน แรงกิริยาจะเท่ากับแรงปฏิกิริยาเสมอ ดังนั้นการเอาชนะธรรมชาติ จึงเกิดผลข้างเคียงตามมา อยู่ทีว่ามนุษย์จะตระหนักรู้และรับผิดชอบในสื่งที่ตัวเองกระทำหรือไม่ ผลร้ายที่ตามมาก็คือ มลภาวะต่างๆที่สะสมทำให้โลกร้อนขึ้น คนเครียดมากขึ้น เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทำให้คนยุคนี้ขี้เกียจมากขึ้น ไม่ค่อยออกกำลังกาย บริโภคอาหารไม่ครบหมู่ ส่งผลให้สุขภาพก็แย่ลง แน่นอนว่าโรคภัยต่างๆก็ถามมา

ร่างกายก็เป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่ง มีความสมดุลในตัวของตัวเอง ร่างกายมีระบบกลไกที่ถูกสร้างมา ให้จัดการสิ่งแปลกปลอมที่บุกรุกเข้ามาในร่างกายได้อัตโนมัติ เมื่อกลไกภายในร่างกายเหล่านี้ ได้รับสารพิษ ได้รับอากาศเป็นพิษ รับประทานอาหารเป็นพิษเข้าไป สะสมนานวันเข้า กลไลเหล่านี้ ก็ค่อยๆเสื่อมสภาพลง จะเสื่อมมากเสื่อมน้อยอยู่ขึ้นอยู่กับการดูแลร่างกายของตัวเอง เมื่อโรคร้ายบุกรุกเข้ามาในร่างกาย ร่างกายก็ต้องผลักดันโรคเหล่านี้ออกไปจากร่างกายให้ได้ เพื่อรักษาสมดุลไว้ ถ้าขับออกไปไม่ได้ ก็ต้องบล็อคเอาไว้ ไม่ให้ลามไปส่วนอื่นๆ

โลก และ ร่างกาย แตกต่างกันคือ เมื่อโลกไม่สมดุล โลกก็ปรับสมดุลให้ได้ เช่น เกิดแผ่นดินไหวเพื่อปรับสมดุลของเปลือกโลก เป็นต้น แต่โลกก็ยังคงอยู่ แต่ถ้าร่างกายป่วยหนัก ปรับสมดุลไม่ได้ อาจจะถึงชีวิต ดังนั้นการที่แพทย์แผนปัจจุบัน หรือ แพทย์แผนจีน จ่ายยาให้ท่านกิน ก็เพื่อให้ยาเข้าไปปรับสมดุลในร่างกายนั่นเอง บางโรคปรับสมดุลไม่ได้ กินยาก็ไม่ดีขึ้น ก็อาจจะต้องตัดอวัยวะบางส่วนออกไป เพื่อรักษาสมดุลร่างกายให้ได้

ดังนั้น การปฏิบัติตนให้อยู่ในแกนเดียวกับธรรมชาติของโลก จะทำให้ชีวิตเราอยู่ในโลกนี้ได้นานขึ้นนั่นเอง เสมือนกับเราว่ายน้ำ ถ้าเราว่ายตามน้ำ เราจะไม่เหนื่อย แต่ถ้าว่ายทวนน้ำ เราจะเหนื่อยมาก

ในหมวดโรคภัยไข้เจ็บ ผมจะนำเสนอ ข้อมูลและภาพประกอบ อธิบายถึงสาเหตุของโรคต่างๆ รวมถึง แนวทางการรักษา ใน แพทย์แผนปัจจุบัน และ แพทย์แผนจีน ว่ามีแนวทางในการรักษาแตกต่างกันอย่างไร เชิญอ่านบทความเหล่านี้ได้เลยครับ กรณีมีข้อสงสัย ติดต่อสอบถามได้ครับ

       ด้วยความปรารถนาดี

   ธนาวัชร์ ธนาชววัฒน์
      วศ.บ.(KMUTT), MBA(NIDA)
       ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
      081-131-0137
   HouLukSeam
อ่านเพิ่มเติม
โรคมะเร็ง

โรคมะเร็ง

17 08

โดยปกติร่างกายประกอบด้วยอวัยวะและเนื้อเยื่อ ซึ่งอวัยวะและเนื้อเยื่อก็ประกอบด้วยเซลล์ต่างๆ ซึ่งเซลล์แต่ละชนิดมีลักษณะและหน้าที่แตกต่างกัน แต่กลไกในการสร้างเสริมเซลล์ใหม่เพื่อทดแทนเซลล์เก่าจะมีลักษณะคล้ายๆกัน โดยเซลล์เก่าจะเริ่มแก่และตายไปในที่สุดและเซลล์ใหม่ก็จะถูกสร้างขึ้นมาแทนที่ ซึ่งโดยปกติ การแบ่งตัวและการเจริญเติบโตของเซลล์ จะถูกควบคุมด้วยยีนส์และเป็นไปตามลำดับขั้นตอนที่แน่นอน แต่เมื่อกลไลนี้มีปัญหา ร่างกายก็ไม่สามารถควบคุมเซลล์ได้ จึงเกิดก้อนเนื้อหรือ ทางการแพทย์เรียกว่า Tumor
อ่านเพิ่มเติม
โรคเบาหวาน

13 12

ลักษณะอาการของโรคเบาหวาน เกิดจากตับอ่อนไม่ทำงานตามปกติ จึงไม่สามารถกักเก็บน้ำตาลไว้สำรองเพื่อใช้เป็นพลังงานของร่างกายได้ โดยปกติเมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลจากอาหาร น้ำตาลก็จะไหลเวียนไปตามกระแสโลหิตอย่างอิสระ ปราศจากการควบคุมตามระบบ ทำให้น้ำตาลปนกระแสเลือดและปัสสาวะ น้ำตาลจะขึ้นๆลงๆอย่างรวดเร็ว สร้างอาการปั่นป่วนให้ร่างกายจนผิดปกติ เช่น ปัสสาวะบ่อยๆ กระหายน้ำ หิวอาหารเร็ว อ่อนเพลีย และอาการอื่นๆตามมา เมื่อเกิดอาการดังกล่าวนานๆไปจะทำให้กระแสโลหิตข้น เพราะมีน้ำตาลและไขมันเจือปนมากเกินไป ทำให้โลหิตไม่ไหลไปเลี้ยงประสาททุกส่วนของร่างกาย เกิดอาการปวดตามมือ ตามเท้าและดวงตาเริ่มพล่ามัว เพราะโลหิตไปเลี้ยงไม่เพียงพอ สมองเริ่มเฉื่อยชา ร่างกายเกิดความบกพร่อง เกิดผลตามมาอีกหลายโรค เบาหวานไม่สามารถที่จะรักษาได้ด้วยยาแผนปัจจุบัน เป็นเพียงควบคุมน้ำตาลให้อยู่ในระดับที่ไม่มากเกินไป
อ่านเพิ่มเติม